วันที่ 3 กรกฎาคม ของทุกปีเป็นวันปลอดถุงพลาสติกสากล เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงผลกระทบของขยะพลาสติกที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต และกระตุ้นให้ผู้คนงดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวโดยหันมาใช้ถุงผ้าแทน

International plastic bag free day หรือ ‘วันปลอดถุงพลาสติกสากล’ ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือขององค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมหลายแห่งทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของถุงพลาสติกที่มีต่อสิ่งแวดล้อม

หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าถุงพลาสติกแบบ Single Use สร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตอย่างมากมาย การใช้งานถุงพลาสติกนั้นมีสั้น เราใช้แค่แป๊ปเดียวแต่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว โดยเฉลี่ยถุงพลาสติกจะถูกใช้งานประมาณ 25 นาที ใช้ระยะเวลาในการย่อยสลาย 450-500 ปี เลยทีเดียว

พลาสติกแบบ Single-use หรือใช้ครั้งเดียว เช่น ถุงร้อน ถุงเย็น ถุงหิ้ว แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก ฯลฯ ไม่มีการนำกลับมาใช้ประโยชน์ ด้วยความที่ถุงพลาสติกมีการใช้งานสั้น แต่อายุของมันยืนยาว หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสมจะส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน

เช่น กระทบกับระบบนิเวศทางทะเล การดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ตลอดจนการเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ เพราะพลาสติกเมื่อหมดอายุการใช้งานจะถูกย่อยสลายกลายเป็นไมโครพลาสติก ซึ่งจะปนเปื้อนในดินและแหล่งน้ำ หรือหากนำไปเผาอย่างไม่ถูกวิธีก็จะทำให้เกิดปัญหามลพิษอีกด้วย

ในประเทศไทยได้ตระหนักถึงผลกระทบอันของพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวมากขึ้น และได้มีการขับเคลื่อน ทั้งลด ละ เลิกใช้พลาสติกที่เกินความจำเป็น ภาครัฐ เอกชน และประชาชน มีการร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาพลาสติกให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายว่าจะเลิกใช้พลาสติก อย่าง ถุงพาสติกหูหิ้วขนาดความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน, กล่องโฟมบรรจุอาหาร, แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และหลอดพลาสติก และมีเป้าหมายในการนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ได้ 100% ภายในปี 2570